3ข้อหลัก ที่ควรรู้ก่อน และ หลัง ทำประกันสุขภาพ

ทำประกันสุขภาพ สิ่งสำคัญเลยคือการเคลม หลายคนทำ ประกันสุขภาพ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งหากป่วย จะไม่ต้องหาเงินก่อนมารักษาตัวเอง หาหมอได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนานที่ โรงพยาบาลรัฐ

อีกอย่างที่สำคัญคือ การแถลงโรคย้อนหลัง 5ปีที่เป็นมาก่อนทำประกัน การบอกความจริง และ นำเอกสารทั้งหมดมามอบให้ตัวแทน ในตอนสมัครทำประกัน จะช่วยส่งผลดีต่อการเคลม ในอนาคต

ข้อควรรู้ ก่อน ทำประกันสุขภาพ

ก่อนตัดสินใจ หรือ เริ่มหาแผนสุขภาพ ควรทำตอนที่เราสุขภาพดี เพื่อเป็นการวางแผนการเงิน ด้านการรักษาสุขภาพ ของตัวเราเองในอนาคต เผื่อวันนั้นเรามีรายได้ลดลง ศักยภาพในการหาเงินไม่มาก

เบี้ยประกันสุขภาพ แม้จะเป็นเบี้ยซื้อทิ้งปีต่อปี แต่เมื่อใดหากเราป่วยด้วยโรคร้ายแรง ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ก็หมดห่วงว่าจะไม่มีเงินสำรองจ่าย หรือ ไม่มีเงินมาจ่ายค่ารักษาโรคที่ใช้เงินต่อเนื่อง

เริ่มต้นจาก ในรายละเอียดค่ารักษา จะมีหมวดหมู่ที่ คปภ กำหนดให้ทุกบริษัทต้องมี อาจจะมีมากน้อย หรือ เพิ่มส่วนไหนก็สามารถทำได้ นั่นหมายความว่า ค่ารักษาที่มีให้เป็นหัวใจหลักของการกำหนดเบี้ยประกัน ให้อ่านและเปรียบเทียบก่อนดูเบี้ยเสมอ

1.เกี่ยวกับประวัติการรักษา ย้อนหลัง 5ปี

1. แถลงประวัติสุขภาพย้อนหลัง 5ปี ทุกโรค ทั้งนอน ไม่นอน รพ รวมไปถึงการผ่าตัด
2. แจ้งโรคประจำตัว และ โรคทางพันธุกรรม โดยดูตัวอย่างโรคเหล่านี้ที่นี่
3. การติดโควิด แบบที่ลงปอด นอนโรงพยาบาล รวมไปถึงรักษาตัวที่บ้านแต่เข้าระบบรัฐเพื่อขอรับยา ก็จำเป็นต้องแถลง
4. การเกิดอุบัติเหตุ ผ่าตัดแขนขาดามเหล็ก ต้องแจ้งเช่นกัน เพราะประกันสุขภาพ อาจจะไม่คุ้มครองผลการรักษาต่อเนื่อง รวมถึงผลข้างเคียงของอวัยส่วนนั้น

2.เกี่ยวกับเบี้ยประกัน ประกันสุขภาพ

1. เบี้ยประกันเป็นแบบซื้อทิ้งปีต่อปี ไม่มีเงินคืน หรือ เงินสะสม
2. ปรับขึ้นทุกปี แต่สำหรับ FWD ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เบี้ยปรับขึ้นทุกช่วงอายุที่ลงท้ายด้วย 0 และ 5 แผนพรีม่าแคร์เบี้ยปรับขึ้นทุกช่วงอายุที่ลงท้ายด้วย 1 และ 6
3. เบี้ยของแผนสุขภาพ จะต้องซื้อคู่สัญญาหลัก ประกันชีวิต ตามแบบที่เหมาะสม แนะนำซื้อคู่แบบตลอดชีพ เพราะจะต่อสัญญาประกันสุขภาพได้จนถึงอายุ 84 ปี
4. อายุมาก เบี้ยยิ่งสูง เริ่มกระโดมากช่วงอายุ 60ปีขึ้นไป
5. การลดหย่อนภาษีส่วนตัว ได้ปีละ 25,000 และ สำหรับพ่อแม่ ได้ปีละ 15,000
   

3.เงื่อนไขการเคลม

ขั้นตอนการเคลมประกันสุขภาพfwd อาจจะต่างจากที่อื่นไม่มากนัก เพราะปัจจุบัน ระบบออนไลน์ เข้ามาช่วยให้ลูกค้าทำรายการผ่านมือถือ ได้ด้วยตนเองง่ายๆไม่ต้องถ่ายเอกสาร ไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงาน และ ให้ดูว่า บริษัทประกันที่เราสนใจ มีโรคพยาบาลในเครือ ใกล้บ้านเราไหม เพื่อไม่ต้องสำรองจ่ายเวลาเจ็บป่วย

สำหรับประกันสุขภาพ การเคลมหลักๆ จะมี 2 แบบคือ การสำรองจ่ายไปก่อนแล้วมาเอาเงินคืนทีหลัง และ การแฟกซ์เคลม ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาใดๆ ยกเว้นส่วนเกินจากแผนประกันที่ทำ เช่น มีส่วนร่วมจ่าย หรือ ส่วนเกินค่าห้อง

ส่วนการสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน ไม่ได้หมายความว่าผู้ทำประกัน "ถูกปฎิเสธการจ่าย" มีหลายปัจจัยแต่หากมั่นใจว่า แจ้งประวัติสุขภาพครบ อย่างไรก็นำเอกสารมาเคลมได้เงินครบถ้วนแน่นอน

ส่วนการเคลมอื่นๆ นอกเหนือจาก เคลมประกันสุขภาพ คือจะต้องให้เกิดเหตุจริง ตามคำนิยามของแผนประกันนั้นๆก่อน จึงจะเคลมได้ เช่น ประกันชดเชยรายได้ ต้องนอนโรงพยาบาลเท่านั้น หลังจากนั้นจึงนำเอกสารมาเคลมเงินชดเชย ตามแผนที่ซื้อ

อ่านเงื่อนไขการเคลม แบบสำรองจ่ายไปก่อน ได้ที่นี่

อ่านเงื่อนไขการเคลม แบบไม่สำรองจ่ายไปก่อน ได้ที่นี่

สิ่งที่ควรรู้ "หลัง ทำประกันสุขภาพ"

แน่นอนว่า ต้องมีระยะเวลารอคอยหลังทำประกัน เพื่อป้องกันสำหรับคนที่รู้ว่าตนเองป่วยแล้วมาหากทำประกัน เพื่อการผ่าตัดหรือรักษาตัว สำหรับประกันสุขภาพ จะมีระยะเวลารอคอยโดยมีเรื่องเกี่ยวกับโรค เป็นตัวกำหนดด้วย

1. รู้ระยะเวลาคอยหลังอนุมัติ คืออะไรและ รอคอยกี่วันอ่านต่อที่นี่
2. รายการค่ารักษาที่กำหนดค่ารักษา อาจต้องจดจำ หรือ จดบันทึก เพื่อวางแผนการรักษาครั้งต่อไป เพื่อเตรียมงบประมาณ
3. การป่วยหาหมอรักษาตัว ในช่วงที่ยังไม่พ้นระยะเวลารอคอย โรคทั่วไปรักษาแล้วหายพ้นระยะเวลารอคอยแล้วต่อไปจะเคลมได้ แต่ถ้ากลายเป็นโรคประจำตัวเช่นมะเร็ง แม้พ้นระยเวลารอคอยไปแล้วก็จะเคลมไม่ได้
4. การต่ออายุสัญญาจะเกิดขึ้น เมื่อแผนสัญญาหลัก หรือ ประกันชีวิตที่เลือก เช่น เลือกแบบ 90/20 เมื่อจ่ายครบ 20ปีแล้ว ต้องจ่ายแค่ประกันสุขภาพไปอีกเรื่อยๆจนถึงอายุ 84ปี โดยบริษัทจะต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยอาจจะต้องตรวจสุขภาพก่อนในบางเคส
   
5. การเลือกทำแบบ "มีความรับผิดชอบส่วนแรก" สามารถเปลี่ยนเป็น "ไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรกได้" ก่อนครบรอบปีที่เบี้ยประกันจะปรับขึ้น

สรุป

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย และ แบบมาตรฐาน แม้จะเป็นเบี้ยซื้อทิ้งปีต่อปี แต่มีประโยชน์มากในการป้องกันความเสี่ยง ที่จะเป็นโรคร้ายแรง โรคที่ต้องหาหมอต่อเนื่อง เราควรวางแผนทำเพื่อไม่นำเงินเก็บที่มีอยู่ มารักษาตัวจนหมด และ เพื่อความสะดวกสบายในการหาหมอ เข้าถึงโรงพยาบาลที่ครบครัน พร้อมยาที่ดีกว่า

อย่าตัดสินใจเลือกเบี้ยประกันที่ถูกเกินไป เพราะจะค่อนข้างไม่มีประโยชน์อะไรเลย เราจะต้องจ่ายเงินส่วนต่างค่ารักษาเป็นแสนๆในบางแผน หรือ ไม่มีค่ารักษาโรคร้ายแรงให้เรา เงินที่จ่ายเบี้ยไปอาจจะต้องสูญเปล่าโดยที่ใช้ประโยชน์ได้น้อยมาก

การศึกษา แผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรเปรียบเเทียบหมวดหมู่ที่มีอยู่ในตาราง หากแบบไหนโดนใจ มีครบตามที่กังวลก็เลือกแบบนั้น และ ศึกษาเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ ผ่านเนื้อหาของเราหรือกับตัวแทนที่เรากำลังจะทำประกันด้วย นะคะ