ทำประกัน กับ ไม่ทำประกัน อะไรได้ใช้ประโยชน์ มากกว่า

ทำประกัน กับ ไม่ทำประกัน อะไรได้ใช้ประโยชน์ มากกว่า

ทำประกัน หลายคนยังมองว่า นี่เป็นเรื่องไกลตัว แต่ในทางกลับกัน การป่วย ทุพพลภาพ และ การสูญเสีย เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และ เกิดขึ้นได้ทุกวัน อาจจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ หรือ อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หลากหลายเหตุการณ์ ที่เราได้รับรู้จากข่าวสาร ทางทีวี หรือ สื่อต่างๆ สิ่งเหล่านี้ น่าจะบอกกับตัวเราได้ดีว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้

ทุกอย่าง มันอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด บางช่วงเวลา ที่คนในครอบครัว เกิดเจ็บป่วย และ ต้องไปพบแพทย์ ตามคลีนิก หรือ โรงพยาบาล ของรัฐบาล การรอคอยที่แสนจะยาวนาน แม้จะมีการนัดหมายไว้แล้วก็ตาม หลายคน คงมีความฉุดคิดในสมองมาว่า "น่าจะดี ถ้าเรามีเงินรักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน" ก็คงจะดี ในความเป็นจริง ทุกคนสามารถทำได้ หากมีการวางแผนการเงินที่ดี เมื่อมีรายได้เข้ามา ควรจัดสรรค์ เพื่อ ทำประกัน เงินส่วนนี้ ที่ยังไงก็ได้ใช้ประโยชน์แน่นอน

ตัวอย่าง ทำประกัน และ ไม่ทำ โดยมีเงินเก็บ ปีละ 100,000บาท

ท้ายที่สุด อยากให้ลองเขียน ว่าคุณเตรียมไหวไหม

1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ตั้งแต่วัยทำงาน ถึงเกษียณ 50,000 บาท ต่อปี
2. เจ็บป่วย ผ่าตัด โคม่า โรคร้ายแรง 1,000,000บาท
3. ทุพพลภาพ ต้อง ขาดรายได้ 200,000บาท ต่อปี
4. เกษียณยังต้องใช้เงิน 50,000 บาท ต่อปี แต่ไม่มีรายได้
5. เสียชีวิต 1-200,000 บาท

ตั้วแต่เกิด จนวัยเรียนทำงาน หากเรา คือ หัวหน้าครอบครัว จำเป็นต้อง ซื้อประกัน หรือ ทำประกันชีวิต ไหม คุณอาจจะหาคำตอบได้ดี ในบทความนี้ การมีรายได้น้อย ไม่ได้หมายความว่า ประกัน คือเรื่องไกลตัว หรือ เป็นค่าใช้จ่าย หากเราลองทลายกำแพงคำว่า "ซื้อ" ออกไป คุณจะเปิดมึมมองใหม่ เพราะสักวันสิ่งที่คุณทำ จะได้กลับมาใช้ประโยชน์ แบบไม่คาดคิด

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย หรือ ไม่ว่าตัวใดๆ ก็ตาม จะคุ้มครองการรักษาของคุณ ไปจนถึงอายุ 80/85ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละแผน ที่คุณไหว หากเริ่มออม ตั้งแต่อายุน้อย การ จ่ายเบี้ยประกันน้อย ก็เป็นเรื่องเหมาะสมกัน อายุมากขึ้น ต้องจ่ายมากกว่าหลายเท่าตัว หากทำเพื่อคนที่คุณรัก ไม่มีคำว่าถูก หรือ แพง เพราะความคุ้มครอง ไม่ได้มีแค่คุณ แต่เมื่อคุณทุพพลภาพ หาเงินไม่ได้ WP ฟรี จาก fwd ก็จะทำงานทันที โดยทุกอย่าง จะไม่มีสะดุด ทั้งตัวคุณที่เป็นเสาหลัก และ คนในครอบครัว