317 Views |
แผนประกันแต่ละแบบ ทำไมดูยุ่งยาก ยื่งอ่านก็สับสน อีกทั้งสัญญาต่างๆที่แยกกันมาในแต่ละแผน ก็ทำหน้าที่ต่างกัน เคยเป็นไหมที่ไม่อยากทำ เพราะไม่เข้าใจความซับซ้อน จริงๆ แล้วการทำประกัน ไม่ว่าจะที่เรียกว่า แผนประกันมรดก หรือ ประกันสุขภาพ ก็จำเป็นต้องซื้อตามสัญญาที่กำหนด แต่เราเลือกได้ว่า จะใส่สัญญาไหนเข้าไปในแผนบ้าง
สัญญาแรก คือ สัญญาหลัก จะต้องเป็น ประกันชีวิต ที่มีให้เลือกได้ 4 แบบ คือ
วิธีการเลือกสัญญาหลัก ให้ดูความต้องการ และ ประกันที่มีอยู่เป็นหลัก แล้วค่อยมาพิจารณาเลือกส่วนที่ขาดไปเพิ่ม
ดูรายละเอียดประกันชีวิตทั้ง4แบบที่นี่
สัญญาที่สอง คือ สัญญาเพิ่มเติม มีให้เลือกมากมาย หลักๆ คือ ประกันสุขภาพ , ประกันโรคร้ายแรง, ประกันอุบัติเหตุ และ ประกันชดเชยรายได้ ส่วนบริษัทต่างๆ จะนำขายแบบไหนเพิ่ม ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นๆ ส่วนของ FWD จะมี ประกันรักษาด้านจิตเวช , สัญญาแชร์กันสำหรับค่ารักษาเหมาจ่าย ให้เลือกด้วย
แน่นอนว่าต้องเป็นแผนที่ซื้อคู่ ประกันชีวิตตลอดชีพ ครบ 1ปี จึงสามารถยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมที่เราไม่ต้องการออกไปได้ เช่น แผนประกันมรดก หรือ แผนชดเชยรายได้ ตัวอย่าง
ในปีที่ 1 เราอยากซื้อ แผนชดเชยรายได้ ในแผนจะมี ประกันชีวิตตลอดชีพ+ประกันอุบัติเหตุ +ชดเชยรายได้ พอครบรอบปีที่ทำประกัน ก็มายกเลิกประกันอุบัติออกไปได้ จะเหลือแค่เงินชดเชยที่เราต้องการซื้อจริงๆ
ส่วนประกันชีวิตอีก 3แบบที่เหลือ ไม่บังคับซื้อพ่วง เราจะซื้อหรือไม่ก็ได้ แต่ตัวแทนสามารถนำเสนอเป็นแผนออกมาให้ไม่ผิด ส่วนลูกค้าอยากเอาส่วนไหนเพิ่ม ส่วนไหนออก ก็สามารถแจ้งตัวแทนได้เช่นกัน
หากเราได้ดูใบเสนอเบี้ยจากตัวแทนมาแล้ว จะสังเกตุเห็นว่า เบี้ยแต่ละสัญญา มีการปรับขึ้น และ เบี้ยไม่เท่ากัน การที่บอกว่า เบี้ยประกัน 10,000บาท ไม่ได้หมายความว่า แผนประกันนั้นมีสัญญาเดียว 10,000บาท
การที่บอกว่า จ่าย 20 ปีคุ้มครองถึงอายุ 90 ปี ก็ไม่ใช่เช่นกัน เพราะเพียงแค่ประกันชีวิตสัญญาหลักเท่านั้นที่คุ้มครองตลอดชีพ ส่วนสัญญาเพิ่มเติม เรายังต้องจ่ายต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบรอบอายุสุดท้ายที่ทำไม่ได้แล้ว
เราจำเป็นต้องอ่าน และ แยกย่อยอ่านไปอีกว่า แต่ละแบบประกัน เบี้ยเท่าไหร่ ปรับขึ้นทุกปี หรือ ปรับทุกช่วงอายุ หรือ ไม่ปรับเลย ซึ่งสัญญาหลักประกันชีวิตทุกแบบ จะเป็นเบี้ยประกันที่ไม่มีปรับขึ้นอยู่แล้ว จะจ่ายคงที่ตายตัว ส่วนสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพ จะต้องการมีการปรับเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มแน่นอน
คนที่มีประกันอยู่แล้ว อาจจะลองหยิบกรมธรรม์ของตนเองขึ้นมาดู รวมถึงผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงศึกษาการทำประกัน หรือ เคยได้รับใบรายละเอียดไฟล์จากตัวแทนมาแล้ว แต่ยังไม่เคลียร์ จากรายละเอียด 3เรื่อง ด้านบน เราอธิบายสั้นๆ ได้ดังนี้
อ่านสัญญาหลัก ประกันชีวิตแบบไหน และ อ่านสัญญาเพิ่มเติม ว่ามีอะไรบ้าง เช่น ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง เป็นต้น
ดูว่าสัญญาหลัก จ่ายเบี้ยกี่ปีคุ้มครองกี่ปี หรือ คุ้มครองถึงอายุเท่าไหร่ และ สัญญาเพิ่มเติมจ่ายปีต่อปีได้ไปจนถึงอายุเท่าไหร่
เบี้ยประกันในสัญญาเพิ่มเติม ปีแรกเท่าไหร่ ปีต่อมาจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ หรือ ปรับเบี้ยแบบทุกปีหรือทุกช่วงอายุ เบี้ยสัญญาหลักไม่มีปรับอยู่แล้วเป็นเบี้ยคงที่
ลองเปรียบเทียบว่าการซื้อประกัน เหมือนเราไปร้านข้าวแกง โดยต้องมีข้าว ในที่นี่คือสัญญาหลักทั้ง 4 แบบ ส่วนกับข้าวที่เราเลือกก็คือ สัญญาเพิ่มเติม ที่อยากจะตักราดท้อปปิ้งอะไรก็ได้ตามกำลังเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า
ลองกลับไปทบทวน เล่มกรมธรรม์ที่มีอยู่ หรือ ใบเสนอเบี้ยของตัวแทนที่เราเคยสอบถามมา การทำแผนของตัวแทน เป็นการจับใส่เพื่อเสนอให้เหมาะสมกับความนิยมในตลาด และ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ผู้ทำประกันสามารถขอปรับเปลี่ยน ลดทุนได้ตามงบของตนเองนะคะ
สนใจทำประกัน หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม